ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง

ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง ธามเดินทางมาไกลเพื่อเจอพระน้องชายชื่อตี๋ ที่วัดบนเกาะดอนราชสีห์ธรรม เขาได้เจอกับ เจท นักปั้นที่ใช้มนต์กับตุ๊กตาพยนต์ของเขา ธามได้ยินข่าวลือว่าพระตี๋หนีไปภายหลังจากฆ่าเจ้าอาวาสคนก่อน แต่ว่าธามไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าผู้ใดกันได้

แล้วก็ถามความเลื่อมใสของราษฎรที่มีต่อตุ๊กตาทวดราชสีห์ธรรม เขามีความคิดเห็นว่ามันเป็นความเชื่อโชคลางที่มืดบอดมากยิ่งกว่าการป้องกันทางจิตใจวิญญาณ แล้วหลังจากนั้นเรื่องไม่ดีหลายสิ่งหลายอย่างก็สร้างความกลัวให้กับหมู่บ้าน เพศหญิงคนหนึ่งหายไป ศพกองพะเนินเทินทึก ห่วยที่สุดตุ๊กตาทวดถูกทำลาย ราษฎรเดือดจัดจัดพิธีการแช่งตามล่าผู้ร้ายมือมีด

เปลี่ยนไปเป็นว่า The Exorcist: Believer ค่อนข้างจะเพลย์เซฟในตนเองไปสักนิดสักหน่อย จะหลอนก็หลอนไม่สุด จะโหดเหี้ยมก็ชั่วร้ายแบบไม่ถึง จะดรามาก็ออกจะจืดจาง ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง ทำให้ส่วนประกอบหลายๆอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินตามเส้นเรื่องของหนังในภาคนี้ออกจะบางเบา ไม่หนักแน่นซักเท่าไหร่ เป็นหนังสยองขวัญที่แตะต้องไม่ถึงต่อมอารมณ์อะไรก็แล้วแต่ได้อย่างน่าผิดหวัง

บทหนัง The Exorcist: Believer ออกจะรสมือเบาไปหน่อย ท่ามกลางกระแสหนังสยองขวัญยุคนี้ที่ขยันยังอย่างอื้ออึง ใครๆก็จำเป็นต้องแงะเอาลักษณะเด่นข้อดีของตนเองออกมาโชว์ แม้กระนั้นปรากฏว่าการกลับมาคราวนี้ของหมอปราบผีออกจะไม่มีเสน่ห์ ถึงจะมีแรงดึงดูด แต่ไม่อาจจะสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้ชมรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเค้าเรื่อง บทหนังออกจะเต็มไปด้วยจุดแหว่งในหลายๆจุด แล้วก็ขาดความประทับใจไป

ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง

เรื่องราว Pook Payon (2023) ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง

ภาพยนตร์ไทยเรื่อง (Hoon Payon) ได้ยินข่าวตอนต้นๆปีมีกระแสดราม่าเรื่องแบน เรื่องจัดเรท เพราะว่าไปเกี่ยวข้องกับวงการสงฆ์หรือพุทธหรือยังอย่างไรนี่แหละขอรับ แม้กระนั้นก็อ่านข้อมูลผ่านๆไม่ได้พึงพอใจ ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าหนังนั้นจะมีปัญหาราวเช่นไร รู้เพียงแต่ว่าเป็นหนังผีสยองขวัญล่ะมั้ง กระทั่งเมื่อมาฉายใน Prime Video ซึ่งมีทั้งสองเวอร์ชั่นเป็น  (ฉ.20) และ ‘ปลุกพยนต์’ (18+)

ที่อันด้านหลังเป็นเวอร์ชั่นเพิ่มฉาก ก็เลยควรต้องเปิดมองดูให้รู้มูลเหตุสักนิดสักหน่อย บรรทัดต่อไปอาจพบสาระสำคัญสปอยล์จากเรื่องหุ่นพยนต์ขอรับหนังเริ่มเปิดมาด้วยโลเคชั่นสวยๆที่ถูกเซ็ตว่าเป็นเกาะที่นึงทุรกันดาร ที่ดูเหมือนกับว่าไม่มีแม้แต่หมอกฏหมายเสียด้วยซ้ำ งานภาพออกมาจัดว่าดีมีความปราณีโคนยู่ เปิดเรื่องด้วยความระทึกที่ก้ำกึ่งระหว่างการหลงเชื่อกับข้อพิสูจน์

ถึงแม้ว่าตอนท้ายนั้นสิ่งที่ขาดความเคารพถูกกำจัดไปด้วยความหวาดกลัวเข้ามาแทน ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีความรู้สึกว่าคีย์แมสเสจของหนังจะเล่นเรื่องนี้ไหมนะ โดยใช้ตัวนำอย่าง “ธาม” (เทือกเขาวินทร์ ตั้งพลังยืน) ที่เปรียบเทียบผู้แทนของคนทันสมัย ที่ไม่ให้ความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลอะไรมารังแกเค้าได้ ออกไปตามหาพี่ชายบวชเป็นพระขาดการติดต่อ มาตามหาที่วัดป่าในเกาะที่นี้

เพียงพอมาจุดนี้อย่างกับจะเล่าในแบบการตามสืบหาข้อเท็จจริงตามฉบับทริลเลอร์ปะปนความเร้นลับ(mystery) ธรรมดา โดยมีผู้ช่วยสติสตังไม่เต็มเต็งอย่าง “โอหัง” (เทือกเขาไม่พัฒน์ ใหม่มากสำอาง) มารอช่วยเหลือ สมทบด้วยกลุ่มสามเณร และ เจษ (คุณาธิป ปิ่นต่อเติม) นักปั้นหุ่นบนเกาะที่มีเวทมนตร์คาถา การแคสติ้งดาราหนังตัวหลักนั้นมองออกแปลกๆไปหน่อย

อย่างกับดูผิดสถานที่กับบริเวณใบหน้าแล้วก็การแต่งตัวไปหน่อย มองดูไม่สมกับคนเกาะดินไกลห่างไกลเลย จนกระทั่งพี่สาวเณรบรีสอย่าง “มีนา” (ทสร กลิ่นเนียม) และก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทของวางท่านั้น ยิ่งแล้วไปใหญ่เลยมันมองดูเป็นศิลปินซีล้นย์วายอย่างเห็นได้ชัด ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง และการแสดงเป็นคนไม่เต็มนั้น ถึงแม้มีความพยายามทำออกมาให้ได้ ถึงแม้ว่าดูแล้วยังรู้สึกขาดความอินเนอร์ของศิลปินแนวๆนี้อยู่ (แน่นอนเราแลเห็นคนวิปลาส คนสติไม่ดีในชีวิตจริง ไม่มีผู้ใดกล่าวอย่างนั้น แนะนำให้ดูการแสดงของกางรด พิตต์ใน 12 Monkeys)

รีวิว

การเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในประเด็นนั้น ร้อยเรียงออกมาได้แบบโจ่งแจ้งจนกระทั่งรู้สึกง่ายแบบนี้เลย..จนกระทั่งอย่างมากหน่อย โน่นเลยทำให้รู้สึกขาดความลุ่มลึกไปกับเรื่องราวไปมากไม่น้อยเลยทีเดียวเลย หลายๆฉากก็ใส่เข้ามาให้รู้สึกแบบคริ้นจ์ๆ(Cringe) ดังเช่นว่า ฉากทำไข่เจียวปลากระป๋อง, ฉากเปิดเผยให้ประชาชนรู้ว่าธามเป็นน้องพระธี แล้วประชาชนเหวอๆ, ฉากส้มหยุดส้มตก ฯลฯ

แต่หลายๆฉากก็ทำออกมาก้าวหน้า โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับกลุ่มพระเณร ทำออกมาได้เรียลดี มันเป็นอย่างที่เราๆเห็นมาหลายสิบปีในวงการพระนั่นแหละ เณรก็เป็นเพียงเด็ก เป็นวัยรุ่น ซึ่งก็มีอารมณ์ซุกซนห่ามๆอย่างงี้ล่ะขอรับ นี้ทำออกมาได้ดีอยู่นะ แอบสนเท่ห์ใจที่คนมีอำนาจตื่นตัวกับหนังเรื่องนี้ ตั้งใจจริงๆไปดูข้อมูลไทยเมือง ข่าวช่อง 8 ช่องอัมรินทร์ เราเห็นวงการพระสงฆ์ทารุณกว่าในหนังมากมายอีกนะ คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงข่าวได้ง่ายยิ่งกว่าหนังอีก

เพียงพอมาถึงช่วงท้าย ตอนเปิดเผยข้อสรุปในเรื่องทั้งมวล ยิ่งแอบเสียดายเข้าไปใหญ่ แอบรู้สึกว่ามันน่าจะร้อยเรียงออกมาถึงจุดนี้ได้ดีกว่านี้มันจะดีงาม โชคร้ายอย่างใหญ่โตที่ทำเป็นไม่ถึง เนื่องจากว่าเรื่องตอนแรกจนกว่าตอนตรงกลางมันขาดอารมณ์แล้วก็จังหวะเป็นประจำที่จะส่งให้มาถึงจุดนี้

เพียงพอมาดูที่ตรงนี้มันเช่นเดียวกันกับทำออกมาเป็นหนังแยกออกไปจบอีกเรื่องนึงเลยแทนไปซะอย่างนั้น แถมเรื่องช่วงท้ายออกมาจะดูดีได้อีกต่างหาก กลับไปจุดโฟกัสเรื่องคนหนีคดีมาสร้างหุ่นดินเหนียวแทน เสียดายจริงๆ(เสนอแนะดูตัวอย่างจากการประสบผลสำเร็จอย่าง The Usual Suspects) และฉากที่เพิ่มมานั้นก็มีความรู้สึกว่าอรรถรสก็ไม่ได้มากเพิ่มขึ้นมามากมายก่ายกองแค่สักแค่ไหนเลย

ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง

รีวิวหนัง “Awareness” พลังเหนือมนุษย์สุดไซไฟรส..จืดจางจากประเทศสเปน

เล่าราวของ เบื่อ ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่กับบิดาของเขาบริเวณชายเมือง ในฐานะมิจฉาชีพเก็บเล็กลักขโมยน้อย ด้วยการใช้ความถนัดพลังพิเศษของเขาที่ประจำตัวมาตั้งแต่เอง กับอำนาจจิตสร้างภาพหลอกตาฉ้อฉลเหยื่อให้เชื่ออย่างไม่สงสัย ซึ่งพลังของเขาแปลงเป็นที่พึงพอใจกรุ๊ปต้านอยากได้เอามาปรับปรุง ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง แล้วก็มันยิ่งสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้น เมื่อพลังของเขาเพิ่มการควบคุมได้ต่อที่หมู่ชน

ผู้กำกับชาวประเทศสเปน “แดเนียล เบนเมเยอร์” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้ พวกเราบางครั้งก็อาจจะเคยชินเขาจากผลงานหนังฮอลลิวูด Tracers ล่าโจนเมือง เมื่อเกือบจะสิบปีกลาย กับเร็วๆนี้ในซีรีส์ Welcome to Eden ซึ่งในหัวข้อนี้เขาก็ยังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังมาจากคอนเซ็ปต์รวมทั้งไอเดียที่ร่วมพิจารณามาจากคณะทำงานของเขาเอง

แต่ว่าอาจจำต้องบอกตรงๆว่า Awareness เปลี่ยนเป็นหนังแอคชันไซไฟที่ค่อนข้างจะเข้าขั้นให้อารมณ์น่ารำคาญ หนังแทบจะไม่มีรสชาติใดๆก็ตามเลย เต็มไปด้วยความซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีลักษณะเด่นที่น่าละลานตาและก็เรียกความพอใจได้ พล็อตก็เสมือนๆกับหนังคนพลังเหนือมนุษย์ที่พวกเราต่างเคยได้เห็นเคยมองกันในหนังเยอะมากหลายเรื่องในตอน 10-20 ปีที่ล่วงเลยไปนั่นแหละ

ถึงแม้ว่าคอนเซ็ปต์พลังพิเศษสำหรับการสร้างภาพหลอกตาและก็มิติภาพต่างๆของนักแสดงหลักจะเป็นอะไรที่ออกจะน่าดึงดูด แต่ว่าหนังก็ยังล้มเหลวสำหรับการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นแล้วก็ความพอใจให้ผู้ชมเชื่อตามได้ตลอดทั้งเรื่อง เพราะว่ารายละเอียดซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงให้เลิกพอใจได้อยู่เสมอเวลา กับการฉายภาพนิมิตรเก่าๆใหม่ๆสลับกันอยู่เรื่อยที่ลำดับการเล่าเรื่องที่เชิญชวนง่วงหงาวหาวนอนดีจริง

ยิ่งไปกว่านี้ คอนเซ็ปต์ที่ออกจะเชยของหนังแล้ว Awareness ยังมากับจังหวะหนังที่ออกจะล้าหลัง เกือบจะขยี้ตามองว่า นี่เป็นหนังปี 2023 ใช่หรือไม่ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ฉากรวมทั้งส่วนประกอบต่างๆในหนังนั้น ดูเหมือนกับว่ากับหนังในตอนต้นสมัยปี 2000 ไปจนกระทั่งตรงกลาง ตอนที่แวดวงหนังพึ่งตื่นเตันกับพลังเอ็กซ์เมน หรือ ละลานตากับโลกของแมททริค มาไม่นานเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวางแบบฉากบู๊ต่างๆของหนัง Awareness ค่อนข้างจะตกยุคสมัยใหม่ อาการแล้วก็มุมกล้องถ่ายภาพอะไรต่างๆช่างเป็นการแสดงแบบการแสดงมุ่งมั่นเสียอย่างยิ่ง มองอย่างไรก็เห็นกระจ่างว่าเป็นการแสดงที่จัดบล็อกกิงเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เป็นการออกท่าทางที่ไม่ยุติธรรมดา ไม่มีชีวิตชีวา แม้กระนั้นเดินตามคอนเซ็ปต์ไปอย่างน่าเบื่อไปหมด

ขณะที่โทนความหลอนของหนังก็ค่อนข้างรสชาติจืดชืด เล่าเรื่องไปแบบค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะเกริ่นปูเรื่องและเข้าเรื่องก็ปาไป 30 นาทีแล้ว แม้ว่าหนังจะเปิดฉากของเรื่องมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยการหยิบใส่เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ระดับโลกเข้ามาโยงใยด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถเชื่อมต่ออะไรกับภาพรวมได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ The Exorcist: Believer ยังพยายามเหลือเกิน พยายามที่จะเซอร์วิสแฟนหนังดั้งเดิม ด้วยการหยิบเอาตัวละครเก่า ๆ ใส่เข้ามาด้วย แต่กลายเป็นว่าใส่เข้ามาแบบดื้อ ๆ ได้ตำนาน “เอลเลน เบอร์สตีน” กลับมาเป็น คริส แม็กนีล อีกครั้ง แต่กลับใส่เข้ามาแบบงั้น ๆ เหมือนสตูดิโอหนังอยากให้ใส่เข้ามาก็ใส่ โดยที่ไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผลอะไรสักเท่าไหร่นัก

ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง

รีวิวหนัง “The Exorcist: Believer หมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์: ผู้เลื่อมใส” คัมแบ็กที่ไม่ค่อยสมศักดิ์ศรี

รวมทั้งนี่ก็คืออีกหนึ่งตำนานสยองขวัญของฮอลลิวูด ที่ยังคงมีความพากเพียรที่ปัดฝุ่นรวมทั้งจับขึ้นมาจากกล่องเก่าๆมาหารับประทานใหม่อยู่เรื่อยกลับมาในคราวนี้กับ “The Exorcist: Believer หมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์: ผู้เชื่อถือ” ที่ยังมากับเส้นเรื่องของมารอยู่ร่างมนุษย์ ที่ยังคงอิงหลักสำคัญความศรัทธารวมทั้งแรงเลื่อมใสในศาสนาอีกเหมือนปกติ เพียงแต่ว่ามันจะยังเวิร์กอยู่กับโลกในตอนสมัยปี 2020s หรือไม่?

เล่าการของ แอนเจลา กับ แคคุณลีน เด็กผู้หญิงวัย 12 ที่ล่องหนไปในป่าข้างหลังสถานศึกษา ก่อนที่จะเผยตัวกลับมาอีกทีในอีก 3 วันให้ข้างหลัง แต่ว่าพวกเขากลับปราศจากความทรงจำอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับขณะที่ล่องหนไป ก่อนที่จะเริ่มมีความประพฤติแปลกๆที่แสดงออกมาต่อครอบครัว ปลุกพยนต์เต็มเรื่อง ทำให้พวกเขามั่นใจว่าพวกคุณถูกปีศาจอยู่ จนกระทั่งจะต้องควรจะพาผู้ชำนาญสำหรับเพื่อการขับไสขจัดในตำนาน

สำหรับในภาคนี้ได้ผู้กำกับสายสยดสยองที่สมัย อย่าง “เดวิด กอร์ดอน กรีน” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง พร้อมทั้งร่วมเขียนบทหนังด้วย เขาเพิ่งบรรลุความสำเร็จปังสุดๆจากหนังชุด Halloween ตรีภาคปัจจุบัน รวมทั้งนี่ถือว่าเป็นการตั้งความหวังใหม่ของแฟรนไชส์นี้ที่ต้องการจะปลุกปั้นสร้างออกมาให้ปังอีกหัวข้อ เพียงโชคร้าย ที่การกลับมาคราวนี้ของหมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์ บางทีก็อาจจะยังไม่ถึงกับขนาด..ดุเด็ดเผ็ดมันเท่าไร

ในช่วงเวลาที่กลุ่มผู้แสดงก็มั่นใจว่าพวกเขาก็มานะแงะความถนัดแล้วก็ความเป็นมือโปรออกมาอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ก็แค่บทหนังกับความเชยของตนที่ใส่เข้ามา มิได้ผลักดันด้านการแสดงมากมายสักเท่าไหร่ ทำให้ส่วนประกอบด้านแอคติ้งของหนังหัวข้อนี้ออกมาค่อนข้างจะแข็งรวมทั้งยังไม่ยุติธรรมชาติสักเท่าไหร่ โดยยิ่งไปกว่านั้น “คาร์ลอส โชลซ์” กับ “มาเรีย เปดราซา” ที่ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งยุคนี้ของประเทศสเปน แต่ว่าหนังทำให้พวกเขาออกมาได้จืดชืดสนิทไปเลย

โดยเหตุนั้นในรูปภาพรวมแล้ว Awareness หนังบู๊ไซไฟจากประเทศสเปนประเด็นนี้ สรรค์สร้างออกมาได้ค่อนข้างจะไม่มีเสน่ห์และก็มนต์ขลังใดๆก็ตามด้วยจับพรีเซ็นท์ในจังหวะดนตรีที่มิได้น่าดึงดูดอะไรเท่าใด ถึงแม้คอนเซ็ปต์จะค่อนข้างจะใช้ได้ แต่ว่าขั้นตอนการเล่ารวมทั้งจัดแจงในส่วนประกอบต่างๆยังทำออกมาได้ไม่เข้ามือ เต็มไปด้วยความจืดจางรวมทั้งความเชยไปเกือบ 100% Rapidqueen ถือว่าเป็นที่บางทีอาจจะไม่สามารถที่จะเหนี่ยวรั้งให้ผู้ชมอยู่กับประเด็นนี้ได้ทั้งยังเรื่องได้ในระยเวลาแทบ 2 ชั่วโมงที่่ผ่านไปช้าเสียจริงของหนัง