หนังชนโรง ดูหนังเต็มเรื่อง Full HD 24 ช.ม. หนังใหม่ ดูฟรี

หนังชนโรง

หนังชนโรง  เล่าราวของอาณาจักรอันสงบบนขอบกาแลคซีถูกรุกรามโดยกองทัพเผด็จการ คอร่า หญิงสาวไม่คุ้นหน้าลึกลับ เปลี่ยนเป็นความคาดหมายที่เยี่ยมที่สุดสำหรับการเอาชีวิตรอดของทุกคนในหมู่บ้าน คุณได้รับมอบหมายให้ออกค้นหานักสู้ที่ได้รับการฝึกซ้อม เพื่อรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับคุณสำหรับเพื่อการยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างกับสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของโลกแม่ (Mother World)

โดยคุณเก็บนักสู้กรุ๊ปเล็กๆจากคนที่เป็นคนต่างเมือง ผู้ก่อความวุ่นวาย เกษตรกร และก็ลูกกำพร้าจากการทำศึกจากโลกต่างๆที่มีความต้องการด้วยกันสำหรับเพื่อการกู้และก็ล้างแค้น เมื่อเงาของดินแดนทั้งหมดทั้งสิ้นทาบทับลงบนพระจันทร์อย่างไม่น่าเป็นได้ การต่อสู้เพื่อโชคชะตาของกาแล็กซีดำเนินไป รวมทั้งการต่อสู้นี้ทำให้กองทัพวีรบุรุษชุดใหม่ก่อตัวขึ้น

หนังหัวข้อนี้นับว่าเป็นโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่และก็ทุนสร้างคงจะหนามากๆอีกรอบของ แซ็ค สไนเดอร์ ที่เขารับหน้าที่ดูแลในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะดูแลหนัง ร่างเค้าเรื่อง ร่วมเขียนบทหนัง และก็อำนวยการสร้างกับเมียของเขา ทำให้นี่ก็เลยสำเร็จงานที่ยัดเยียดข้อหาเป็นตัวของเขาเองเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม ขอเพียงแค่มีสตูดิโอหนังที่ให้พื้นที่เขาได้ละเลงงานสร้างอย่างอิสระเพียงแค่นั้นก็พอเพียง

 

หนังชนโรง

ดูหนังออนไลน์ ดูหนังพากย์ไทย ซับไทย หนังชนโรง

เล่าราวภายหลังที่แอบหนีออกมาจากฟาร์มไก่สุดหฤโหดในคราวนี้ จินพบร์ กับ ร็อกกี้ แล้วก็พรรคพวกเครือญาติไก่ได้ย้ายถิ่นและก็แยกตัวออกมาดำรงชีวิตเฉยๆอยู่บนเกาะกึ่งกลางน้ำที่แสนสงบ แต่ว่าเมื่อให้กำเนิด มอลลี บุตรสาวที่ใฝ่ฝันต้องการเจอกับอิสระ ภาพจำในอดีตกาลกลับมาราวกับเดจาวูอีกรอบ เมื่อพวกเขาจำต้องเจอหน้ากับโรงงานผลิตนักเก็ตไก่ที่กำลังรุกรามแล้วก็ดัดแปลงชีวิตไก่ตัวเป็นๆ

อาร์ดแมน แอนิเมชัน ยังคงเสน่ห์การผลิตหนังสไตล์สต็อปโมชันจากดินน้ำมันปั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาอีกที แม้กระนั้นปัจจัยที่การผลิตหนังสไตล์นี้นานๆคราวจะทำออกมาสักหนึ่งครั้ง เนื่องจากวัตถุการปั้นนับวันยิ่งหาได้ยากยิ่งกว่าเดิม สำหรับภาคต่อประเด็นนี้ถึงจะเป็นองค์ประกอบเรื่องราวต่อจากเดิม แต่ว่าคณะทำงานผู้ผลิตโดยมากก็แปรไปแทบหมด ด้วยเหตุว่าวันในขณะที่ผ่านไปนานแล้วนั่นเอง

“แซม เฟล” จากหนังแอนิเมชัน ParaNorman มารับหน้าที่ดูแล หนังชนโรง   งานสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้แทน แน่ๆว่าเขามีประสบการณ์สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันสไตล์สต็อปโมชันมาก่อนแล้วอยู่หลายเรื่อง ด้วยเหตุนั้นเมื่อมาจับงานปั้นเรื่องนี้ก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก เขาทำหนังออกมาให้กับช่วงเจริญ ในเวลาเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์และก็เสน่ห์ความเป็น Chicken Run ต้นฉบับเอาไว้ได้ค่อนข้างจะเหมาะเหม็ง

ดังนี้ Chicken Run: Dawn of the Nugget ยังคงได้ “แคปรี่ เคิร์กแพทริก” กับ “จอห์น โอ’ฟาร์เรลล์” ผู้เขียนจากหนังต้นฉบับกลับมาร่วมกลุ่มอีกที ร่วมด้วยสาวคนเขียนบทแบบใหม่ “เรเชล ทันทุ่งนาร์ด” ที่มาช่วยปลุกปั้นเรื่องราวความเพลิดเพลินอีกที แม้ว่าโดยภาพรวมแล้ว บทหนังจะยังมิได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ หนังยังคงใช้สูตรสำเร็จแบบเก่าๆที่แต่งความตลกขบขันก้าวหน้าเนื่องจากว่ามุกตลกโปกฮาสไตล์บริติชที่รู้จักนั่นเอง

หนังชนโรง

The Family Plan

The Family Plan เกี่ยวกับชีวิตของ ดินแดน พ่อบ้านปกติที่ดำเนินชีวิตแสนเรียบง่ายอยู่ในเขตปริมณฑลของเมืองนิวยอร์ก แต่ว่าเมื่อสมัยก่อนอันแสนเหี้ยมโหดอำมหิตของเขาย้อนกลับมาเอาคืนอีกที ทำให้เขาต้องหาแนวทางที่จะคุ้มครองป้องกันครอบครัวที่เขารักที่สุด โดยที่พวกเขาก็ไม่ทราบมาก่อนเกี่ยวกับสมัยก่อนอันลึกลับของผู้นำครอบครัว ที่กาลครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมือสังหารนิรนามตัวท็อปของแวดวง!

เอาจริงเอาจังๆมันก็เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินดี ในด้านการหาคอนเทนท์รื่นเริงทั่วๆไป หนังก็ยังเต็มไปด้วยทีท่าที่สร้างความเอ็นหน้าจอยให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าถ้าเกิดเป็นในด้านวิภาควิจารณ์หนังอย่างไม่อ้อมค้อมแล้วละก็ มันบางครั้งอาจจะไม่ใช่การเสพสุขที่ดีสักเท่าไหร่นัก เพราะเหตุว่า The Family Plan ก็ยังดำเนินสะกดรอยหนังแอคชันครอบห้องครัวที่มีมาตลอดในตอน 20-30 ปีให้หลัง ทุกจุดแล้วก็ทุกก้าวย่างเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบสำเร็จรูปแบบจับวางเอาไว้

โดยหนังได้ผู้กำกับจากแวดวงโทรทัศน์ “ไซมอน เคแลน โจนส์” มารับหน้าที่ดูแลหนังหัวข้อนี้ ด้วยเหตุนี้สเกลงานสร้างของหนังประเด็นนี้มันก็จะออกมาใสๆคลุ้งๆแบบตามสไตล์หนังที่สร้างออกมาจากทางโทรทัศน์ราวๆนั้น ส่วนประกอบงานสร้างมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่ใดๆก็ตามก็ราวหนังครอบครัวกลิ่นดิสนีย์นิดๆแต่ว่าก็มิได้ใสชัดเจนเกินความจำเป็น แต่ว่าก็ยังคงในเรตที่เด็กมองได้คนแก่มองเพลิดเพลินอยู่

บทหนังได้ “เดวิด ค็อกเกอาลล์” จาก Orphan: First Kill มาปั้นเรื่องราวให้ หนังชนโรง   แน่ๆว่าประสิทธิภาพของบทหนังก็น่าจะมิได้เพอร์เฟ็คอะไรนัก ถ้าเกิดมองผลงานก่อนๆของนักประพันธ์รายนี้ก็จะทราบดีว่าเขาเขียนบทหนังในสไตล์ที่ค่อนข้างจะเซฟโซนและไม่ค่อยสร้างความแปลกใหม่ออกมาให้กับผู้ชมสักเท่าไหร่ อย่างเดียวกัน The Family Plan ก็จัดไว้อยู่ในหมวดพื้นที่ปลอดภัย หนังไม่ค่อยเดินออกนอกกรอบสักเท่าไหร่

Your Christmas or Mine 2

Your Christmas or Mine 2 เล่าราวตลอดจากภาคก่อน เมื่อ เจมส์ กับ เฮย์ลี ได้ชูครอบครัวไปพักช่วงปลายปีที่สกีโรงแรมหรูหราในแนวเขาแอลป์ แต่ว่าด้วยเหตุว่าข้อผิดพลาดของการบุ๊กกิ้งบ้านพักโดยบิดาของเฮย์ลี ทำให้ทั้งยัง 2 ครอบครัวไปโผล่อยู่ที่จุดหมายปลายทางไม่เหมือนกันคนละที่ เปลี่ยนเป็นการสับเปลี่ยนวันคริสต์มาสของพวกเขาอีกรอบ ทำให้ เจมส์ กับ เฮย์ลี จะต้องเจอหน้ากับบทดสอบความเกี่ยวพันอีกรอบ ท่ามกลางสายตาของคนภายในครอบครัว

โดยในหนังภาคนี้ก็ยังคงได้โอกาสมผู้ผลิตชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น “จิม โอ’ฮานลอน” ที่กลับมารับหน้าที่ควบคุมหนังอีกที จากบทหนังของ “ทอม แพร์รี” ที่เอาจริงเอาจังๆถ้าจะว่ากันตามจริง เมื่อครั้งใน Your Christmas or Mine? เมื่อปีก่อน ก็เป็นหนังรอมคอมกลิ่นเทศกาลที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะยังรู้สึกเฉยๆเป็นเสียจำนวนมาก หนังบางทีอาจจะน่ารักน่าเอ็นดูดีแต่ก็ยังไม่มีอะไรให้น่าจำ เอาจริงเอาจังๆก็แทบจำไม่ได้แล้วด้วยว่าภาคแรกเป็นอย่างไร

เพียงพอมาถึง Your Christmas or Mine 2 ก็ยังมากับแพ็กสูตรสำเร็จแบบเคยชินดังเช่นเดิม มันเป็นหนังที่มีพล็อตตามตลาดทั่วๆไป เป็นหนังที่มองง่ายและก็ย่อยได้ไม่ยากอย่างเดียวกัน เสมือนเป็นหนังที่จะต้องมีไว้สำหรับในตอนเทศกาลวันหยุดสิ้นปีอะไรอย่างนี้ ขนาดรวมทั้งประสิทธิภาพของหนังก็ยังรักษามาตรฐานเดิมเอาไว้เจริญ มีกลิ่นความเป็นหนังฉายโรงได้นิดๆแต่ว่าจำนวนมากก็เหมาะสมกับการเป็นหนังหน้าจอเล็กมากยิ่งกว่า

บทหนังก็แทบไม่มีอะไรออกนอกกรอบเลย Your Christmas or Mine 2 ที่เป็นการจับเอาสูตรเดิมจากภาคแรกมาเขย่าออกมาเป็นเสมือนป็อปคอร์นรสชาติอื่นที่มิได้เป็นรสแปลกใหม่อะไร จังหวะต่างๆในหนังเกือบจะมิได้เกินความคาดหวัง มันเป็นการจับวางเอาไว้แบบลงล็อกเป๊ะๆซ้ำยังเต็มไปด้วยมุกเสียดสีสำเนียงแล้วก็ความเป็นแคว้นของแต่ละถิ่น ที่เป็นอะไรที่ออกจะเชยพอได้เลยจ๊ะในยุคนี้

Leave the World Behind

Leave the World Behind เกิดเรื่องราวในวันหยุดที่เฝ้าใฝ่ฝันของ อะแมนดา และก็ เคลย์ กับลูกๆวัยรุ่นของพวกเขา ที่เช่าห้องพักผ่อนตากอากาศรอบๆชายทะเลนิวยอร์ก แต่ว่าถูกสอดแทรกด้วยการมาเยี่ยมของบิดาลูกผิวสีคู่หนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านข้างหลังดังที่กล่าวถึงแล้ว เนื่องจากมีเรื่องราวไฟดับด้านในเมือง ตามมาด้วยอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้ โทรศัพทไม่มีสัญญาณ ปลดปล่อยให้พวกเขาถูกตัดขาดจากโลกด้านนอกไปชั่วประเดี๋ยว

จนกระทั่งเสียงดังแปลกเกิดขึ้นอย่างน่าฉงนสงสัย เป็นตอนเดียวกับที่เหล่าสรรพสัตว์ต่างพากันย้ายถิ่นในด้วยกิริยาท่าทางแปลกๆยิ่งทำให้ครอบครัวนี้เริ่มวิตกในทุกๆด้าน เปลี่ยนเป็นการผลิตกำแพงกันระหว่างผู้เช่าคนขาวกับเจ้าของบ้านชาวผิวสี ก่อตัวแวววาวไฟการรบทางความนึกคิดที่ตบตีกันระส่ำระสายข้างในหัวรวมทั้งบริเวณตัวพวกเขา

“แซม เอสเมลล์” จากซีรีส์ Mr. Robot มารับหน้าที่ดูแลดูแลงานสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้  หนังชนโรง  รวมทั้งถือได้ว่าเป็นผลงานหนังฟอร์มใหญ่ที่สุดนับจากเขาทำอาชีพนี้มา โดยเขายังรับหน้าที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเขียนบทหนังประเด็นนี้ด้วยตัวเองด้วย แน่ๆว่าภาพลักษณ์ของ Leave the World Behind คงจะจูงใจคนชอบดูหนังแนวหายนะรวมทั้งวันโลกแตกได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเหตุว่ามันเชิญชวนติดต่อออกมาแบบนั้น แต่ว่าอย่าเพิ่งจะไว้เนื้อเชื่อใจไป เพราะมันสลับซับซ้อนรวมทั้งลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าที่พวกเราคิดไว้

ใช่แล้ว มันเป็นหนังหายนะจิตวิทยาที่เบาๆนำข้อมูลใส่ความวายป่วงใส่ผู้ชมมาครั้งละเรื่อยมันเป็นหนังที่มีกลิ่นความเป็น เอ็ม.ไนท์. ชยามาลาน กับ จอร์แดน พีล หน่อยๆแม้กระนั้นมันบางทีก็อาจจะยังมิได้มีเสน่ห์และก็ความน่าคลั่งไคล้ดังผลงานของเขาเหล่านั้น โชคร้ายที่สุดด้านหลังมันเป็นแค่เพียงหนังที่เต็มไปด้วยอะไรที่เดิมๆกับช่องโหว่ของบทหนังที่ไม่แยบยลเอาเสียเลย

หนังชนโรง

Wonka วองก้า

Wonka เกิดเรื่องราวสุดแสนอัศจรรย์ของนักเล่นกล นักคิดค้น และก็นักลงทุน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Rapidqueen กว่าที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็น วิลลี วองก้า ผู้ครอบครองโรงงานช็อกโกแลตอันสุดดีเลิศอย่างกับจำต้องมนตร์ ที่เวลานี้การเสี่ยงอันตรายในจุดเริ่มของเขาจะเป็นที่แจ่มแจ้งต่อสายตาชาวโลก เพราะเหตุใดคนถึงรักเขามากมายเพียงนี้..จะเขาจะเบียวๆไปสักนิดก็ตามเหอะ

โดยในคราวนี้เป็นการแต่งตั้งของกลุ่มผู้ผลิตฝั่งอังกฤษเกือบ 100% ภายใต้การดูแลของ “พอล คิง” คนที่สร้างให้เจ้าหมี “Paddington” ที่ชีวิตชีวาและก็น่าคลั่งไคล้กระทั่งเปลี่ยนเป็นตรีภาค รวมทั้งหนังทำนองนี้แหละที่แปลงเป็นหนังแนวถนัดของเขาไม่น้อยเลย ถือได้ว่างานสร้างที่ได้ผู้ผลิตที่เหมาะเหม็งกับผลงานอย่างดีเยี่ยม ทำให้ส่วนประกอบอะไรต่างๆมันช่างประหลาดเสียจริง

ถึงแม้ว่าผู้แสดง วองก้า จะไม่ใช่อะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ เนื่องจากนี่เป็นนักแสดงในตำนานจากความสามารถการปลุกเสกขึ้นมาของคนเขียนระดับตำนาน “โรอาลด์ ดาห์ล” ที่โลกรู้จักกันดี พวกเราบางครั้งอาจจะคุ้นๆกับเวอร์ชันเมื่อแทบ 20 ปีกลายที่ จอห์นนี เดปป์ เล่นเอาไว้ หรือฉบับคลาสสิกในปี 1971 ก็ยังคงประทับใจอยู่ในความจำ แต่ว่ามาในฉบับนี้นับว่าเป็นเติมแต่งแล้วก็เพิ่มเติมจินตนาการขึ้นมาอีกทาง ด้วยการเล่าถึงต้นกำเนิดแล้วก็ตัวตนของวองก้าในวันที่มีแต่ว่าตัว

พอล คิง ยังมารับหน้าที่วางพล็อตเรื่องและก็ร่วมเขียนบทหนังกับ “ไมซอม ฟาร์นาบี” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจากใน Paddington 2 ที่ถือว่าเป็นรังสฤษฏ์บทหนังที่ออกจะย่อยและก็มองง่าย ซ้ำยังเต็มไปด้วยจังหวะที่เชิญสนุกสนานไปได้ทั้งยังเด็กและก็คนแก่อย่างเริงใจยิ่งหนัก แม้บทหนังจะมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรก็แล้วแต่พล็อตออกจะเชยด้วย แต่ว่าเนื่องจากด้วยการเล่าเรื่องที่จับใจผู้ชมได้ดิบได้ดีตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ส่วนประกอบนี้มันประจวบเหมาะกับภาพรวมไปไม่น้อย